Last updated: 29 ก.ย. 2564 | 36421 จำนวนผู้เข้าชม |
เคล็ดลับพิเศษให้ทาได้ทนนาน มีประสิทธิภาพ
1. ขัดล้างชั้นฟิล์มเก่าที่เสื่อมสภาพเดิมออกให้มากที่สุด เท่าที่มากได้ก่อน ด้วยกระดาษทราย หรือเครื่องช่วยขัด
2. เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง จากนั้น ลงน้ำยารองพื้นปูนเก่า ใส สูตรน้ำมัน
3. น้ำยารองพื้นปูนเก่า สูตรน้ำมัน จะมีปฏิกิริยากับบริเวณที่สีเสื่อมสภาพโดยจะโป่งพองออกมา ให้ทำการขูดสีที่โป่งออกมาในบริเวณนั้นๆ
4. เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง แล้วลงรองพื้นในบริเวณที่สีโป่งพองออกมาอีกครั้้ง
5. รอให้รองพื้นแห้งแล้วทาสีทับหน้าได้เลย
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
อย่าลืมสำรวจผนังและซ่อมแซมก่อนทาสีรองพื้น
ในขั้นตอนของการฉาบปูนหากช่างไม่มีความชำนาญ บ่มปูนไม่ดี นอกจากจะเกิดปัญหารอยแตกงา ตามมาแล้ว
1.ยังอาจทำให้เกิดคราบเกลือบนผนัง ที่มีสาเหตุมาจากปูนสะสมความชื้นไว้แล้วค่อย ๆ คายออกมา
2.เกิดคราบตะไคร่น้ำเนื่องจากบริเวณใกล้เคียงสัมผัสกับความชื้น เกิดปัญหาสีหลุดร่อน โป่งพองเพราะความชื้นสะสมจากดิน
หากผนังมีร่องรอยความเสียหายเหล่านี้ให้ทำการซ่อมแซมส่วนนี้ก่อนเป็นอันดับแรก
เช่นมีรอยแตกลาย ให้ทำการโป๊วให้ผนังเรียบก่อน ถ้ามีเชื้อราต้องกำจัดออกให้หมดก่อน
การทาสีรองพื้น
•ให้ดูจากสภาพพื้นผิวผนังเดิมคือ หากเป็นผนังใหม่ที่เพิ่งทาสีไปไม่นาน และผนังยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แต่เพียงต้องการเปลี่ยนสีใหม่ให้ทาสีทับหน้าได้เลยไม่ต้องทาสีรองพื้น
•แต่หากเป็นผนังเก่าที่มีการเสื่อมสภาพ ให้ซ่อมแซมให้เสร็จสิ้นก่อน
•แล้วทาสีรองพื้นก่อน 1 เที่ยวโดยเลือกใช้น้ำยารองพื้นปูนเก่า สูตรน้ำมัน ซึ่งเหมาะกับพื้นผิวปูนที่เสื่อมสภาพมากที่สุด
•มีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพพื้นผิวเดิมที่มีปัญหาอยู่แล้ว เช่น สีลอกล่อน สีโป่งพอง สีเป็นฝุ่นชอล์ก สีซีดจาง และช่วยเสริมการยึดเกาะพื้นผิวที่เสื่อมสภาพกับสีทับหน้า ให้ยึดติดและเรียบเนียน
เลือกสีทาทับหน้าให้เหมาะสม
•เลือกสีน้ำอะคริลิก ที่มีคุณสมบัติเด่น สามารถทนทานต่อสภาวะอากาศที่รุนแรงได้
•สำหรับภายนอกและภายใน มีทั้งฟิล์มสีกึ่งเงาและเหลือบเงา ฟิล์มสีเรียบเนียน กลบได้ดีเยี่ยม ทนทานทุกสภาวะอากาศ ไม่ว่าจะแดดหรือฝน ทนทานต่อการเกิดคราบด่างและคราบเกลือได้ดี
14 ก.ย. 2564
30 ส.ค. 2564
13 ก.ย. 2564